ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับสมาชิก เครือข่าย หน่วยรับสมัครสมาชิก และบุคคลภายนอก

ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับสมาชิก เครือข่าย หน่วยรับสมัครสมาชิก และบุคคลภายนอก

-----------------------------

กองทุนการออมแห่งชาติ (“กอช.”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน จึงจัดให้มีประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงวิธีการที่ กอช. เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลและวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อ กอช. เพื่อให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ กอช. ได้รับจะถูกนำไปใช้ตามที่กฎหมายกำหนด โดย กอช. อาจมีความจำเป็นตามกฎหมายที่ต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของ กอช. มีความเป็นธรรม โปร่งใส และเคารพต่อหลักการจำกัดวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้สำหรับเจ้าของข้อมูลบุคคล ดังต่อไปนี้

(๑) สมาชิก กอช. รวมถึง ผู้รับบำนาญ ผู้รับเงินดำรงชีพ ผู้รับผลประโยชน์ หรือทายาทของสมาชิก

(๒) เครือข่าย กอช. หรือเจ้าหน้าที่เครือข่าย กอช.

(๓) หน่วยรับสมัครสมาชิก กอช. หรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยรับสมัครสมาชิก กอช.

(๔) บุคคลภายนอก ได้แก่ ผู้ที่มาติดต่อ หรือเข้าร่วมประชุม หรือเข้าร่วมอบรม หรือเข้าร่วมกิจกรรม หรือเข้าร่วมโครงการ กับ กอช. พันธมิตรหรือเจ้าหน้าที่ของพันธมิตร กับ กอช. คู่สัญญา หรือเจ้าหน้าที่ของคู่สัญญา กับ กอช.

๑. วิธีที่ กอช. รับและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

๑.๑ กอช. เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับ กอช. โดยตรง

กอช. อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบต้นฉบับเอกสาร สำเนาเอกสาร หรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่โดยตรง

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ กอช. ได้รับมาจากหน่วยงานภายนอกหรือบุคคลภายนอก

๑.๒ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุ ในประกาศฯ ฉบับนี้ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน กอช. จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

๒. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการเก็บรวบรวม

๒.๑ ข้อมูลส่วนบุคคลด้านกิจการสมาชิก

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บ่งชี้ตัวตนของสมาชิก กอช. ผู้รับบำนาญ หรือผู้รับเงินดำรงชีพ เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) แอปพลิเคชั่น กอช. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร เป็นต้น

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บ่งชี้ตัวตนของผู้มีสิทธิรับเงินของสมาชิก กอช. (ผู้รับผลประโยชน์/ทายาท หรือผู้จัดการมรดก) เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) แอปพลิเคชั่น กอช. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร เป็นต้น

(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บ่งชี้ตัวตนของเครือข่าย (ตัวแทนชุมชน ตัวแทนหมู่บ้าน หรือตัวแทนอื่น ๆ) หน่วยรับสมัครสมาชิก พันธมิตร หรือคู่สัญญา กับ กอช. เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือไอดี ผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) เป็นต้น

๒.๒ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บ่งชี้ตัวตนของบุคคลภายนอก ได้แก่ ผู้ที่มาติดต่อ หรือเข้าร่วมประชุม หรือเข้าร่วมอบรม หรือเข้าร่วมกิจกรรม หรือเข้าร่วมโครงการ กับ กอช. เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือไอดี ผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) บันทึกเสียงสนทนา บันทึกภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น

๓. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

๓.๑ พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 กำหนดให้จัดตั้ง กอช. ขึ้น มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และเพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำนาญ และให้ประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกเมื่อสิ้นสมาชิกภาพ รวมทั้งให้มีอำนาจและหน้าที่อื่น ๆ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่ให้อำนาจไว้

กอช. เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานกฎหมาย ดังต่อไปนี้

ลำดับที่ วัตถุประสงค์ที่กำหนด ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
๑. เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับสมัครสมาชิก การขอรับเงิน และการดำเนินงานอื่น ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนการออมแห่งชาติและกฎหมายอื่น ๆ ที่ให้อำนาจไว้ เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
๒. เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อเข้าร่วมประชุม หรือเข้าร่วมอบรม หรือเข้าร่วมกิจกรรม หรือเข้าร่วมโครงการ กับ กอช. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
๓. เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานร่วมกับพันธมิตร หรือคู่สัญญา กับ กอช. - เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
๔. เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บภาพของท่านทั้งในรูปแบบเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง เพื่อการประชาสัมพันธ์ - เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
๕. เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของ กอช. - เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

๓.๒ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ กอช. จะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามอำนาจหน้าที่กฎหมายกำหนดตามข้อ ๓.๑ ข้างต้น ในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายเป็นข้อมูลที่มีความจำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ท่านมีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลแก่ กอช. เพื่อให้ กอช. สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูล ส่วนบุคคลดังกล่าวแก่ กอช. อาจมีผลกระทบทางกฎหมายได้

๔. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

๔.๑ การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์หรือเปิดเผย

(๑) กอช.อาจใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ปฏิบัติงานของ กอช. หรือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ กอช. ได้ เพื่อการใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่นนอกเหนือจากกรณีดังกล่าวจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่ กอช. จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายหรือมีกฎหมายบัญญัติให้กระทำได้ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับหน่วยงานต่อไปนี้

(๑.๑) ตัวแทนธนาคาร ตัวแทนของ กอช. (ตัวแทนชุมชน ตัวแทนหมู่บ้าน หรือตัวแทนอื่นๆ) และหน่วยรับสมัครสมาชิก

(๑.๒) หน่วยงานภาครัฐ เครือข่าย หน่วยรับสมัครสมาชิก หรือพันธมิตร ที่ กอช. มีความจำเป็นต้องเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลด้วย เช่น กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น

(๑.๓) หน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายอื่น ๆ เพื่อดำเนินวัตถุประสงค์ ด้านการตรวจสอบ การดำเนินงานของ กอช.

(๑.๔) หน่วยงานกำกับดูแลเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

(๑.๕) บุคคลหรือหน่วยงานที่ กอช. จ้างให้เก็บข้อมูลหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

(๑.๖) หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานในกำกับของรัฐที่ได้รับการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลจาก กอช. เพื่อให้สมาชิก กอช. ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ

๔.๒ กอช. จะดูแลไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานของ กอช. หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยแก่บุคคลอื่นนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานตามภารกิจของ กอช. เว้นแต่ จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน หรือเป็นกรณีที่ กอช. จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายหรือมีกฎหมายบัญญัติให้กระทำได้

๔.๓ ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นบุคคลภายนอก กอช. จะจัดให้มีข้อตกลงระหว่างกอช. กับผู้ประมวลผลข้อมูล เพื่อกำหนดให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ กอช. กำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ กอช. จะจัดให้มีการควบคุมและตรวจสอบการดำเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดด้วย

๕. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กอช. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น กอช. จะลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของ กอช. และผู้ซึ่งให้บริการแก่ กอช. (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้เว้นแต่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับ กอช. ยังมิได้สิ้นสุดลง หรือข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของ กอช. หรือกรณีมีข้อพิพาททั้งก่อนและในระหว่างดำเนินคดีทางศาลจนสิ้นสุดระยะเวลาบังคับคดีตามกฎหมาย

โดยที่ กอช. จะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อทำลายข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละด้านดังต่อไปนี้

ด้านสมาชิก : 10 ปี นับแต่วันที่สมาชิกหรือผู้มีสิทธิได้รับเงินจาก กอช. โดยถูกต้องครบถ้วนหรือสิ้นสภาพสมาชิก

ด้านเครือข่าย หน่วยรับสมัครสมาชิก : 10 ปีนับแต่วันที่เสร็จสิ้นภารกิจ

ผู้ที่มาติดต่อ หรือเข้าร่วมประชุม หรือเข้าร่วมอบรม หรือเข้าร่วมกิจกรรม หรือเข้าร่วมโครงการ กับ กอช. : 10 ปี นับแต่วันที่มีการประชุม อบรม กิจกรรม โครงการ หรือการให้บริการสิ้นสุดลง

๖. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการดำเนินการดังต่อไปนี้

๖.๑ สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับ กอช. เมื่อใดก็ได้ เว้นแต่ โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

๖.๒ สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยสามารถแจ้งให้ กอช. ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงมีสิทธิขอให้ กอช. เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

๖.๓ สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิที่ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านจาก กอช. ขอให้ กอช. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น และขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ กอช. ส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

๖.๔ สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้ กอช. ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณี

(๑) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษา ไว้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(๒) ท่านถอนความยินยอมที่เป็นฐานในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และ กอช. ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอีกต่อไป

(๓) ท่านได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

(๔) เมื่อมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

๖.๕ สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้ กอช. ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้

(๑) กอช. อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(๒) ท่านขอให้ กอช. ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้ กอช. เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

๖.๖ สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ กอช. มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ กอช.

๖.๗ สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิข้างต้นตามเงื่อนไขและข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดำเนินการเพื่อประโยชน์ สาธารณะหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของ กอช. สิทธิของท่านในบางกรณีอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย

ท่านสามารถยื่นคำร้องขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น โดยกรอกแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านทาง www.nsf.or.th โดย กอช. จะพิจารณาดำเนินการตามคำร้องหรือปฏิเสธคำร้องของท่านและแจ้งผลกลับไปภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ กอช. ได้รับเอกสารคำร้องขอใช้สิทธินั้น

ท่านสามารถแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยกรอกแบบฟอร์มแจ้งเหตุรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทาง www.nsf.or.th

หากท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเห็นว่า กอช. ปฎิบัติต่อสิทธิของท่านไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขของกฎหมาย ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญได้

๗. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

กอช. จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของ กอช. เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

๘. วิธีการติดต่อ

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : กองทุนการออมแห่งชาติ เลขที่ ๙๗๙/๓๗ - ๔๑ ชั้น ๑๘ อาคาร เอส เอ็ม ทาวเวอร์ ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐ โทรศัพท์ ๐ ๒๐๔๙ ๙๐๐๐ ต่อ ๕๐๑ - ๕๐๔ อีเมล saraban@nsf.or.th

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : กองทุนการออมแห่งชาติ เลขที่ ๙๗๙/๓๗ - ๔๑ ชั้น ๑๘ อาคาร เอส เอ็ม ทาวเวอร์ ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐ โทรศัพท์ ๐ ๒๐๔๙ ๙๐๐๐ ต่อ ๕๐๑ - ๕๐๔ อีเมล dpo@nsf.or.th

๙. การปรับปรุงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

ประกาศฉบับนี้อยู่ภายใต้การตรวจสอบและทบทวนอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น จึงอาจมีการปรับปรุงแก้ไขได้เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใสต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงประกาศ กอช. จะแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ กอช. โดยเร็วที่สุด

ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖