หมวดหมู่: ความเสี่ยง และ ข้อควรระวัง

วันที่บทความ: 05/01/2564

        วางแผนการเงินวิถีใหม่...รัดเข็มขัดสู่ภัยโควิด-19

         สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังจะหายไป แต่ก็กลับมาอีกครั้ง ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ รวมไปถึงเรื่องปากท้องของคนไทย สถานการณ์แบบนี้ทำให้หลายๆ คนต้องตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินเพิ่มขึ้นเพื่อสู้กับวิกฤตการณ์ครั้งนี้ และพร้อมตั้งรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ ที่พร้อมจะกลับมาใหม่ได้ทุกเมื่อ ซึ่งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไปตามเจนเนอร์เรชัน เพื่อให้คุณสามารถรัดเข็มขัดการเงิน และการวางแผนการออมได้อยู่หมัด เรามาดูกันว่าเทคนิคที่เหมาะกับคนแต่ละเจนเนอร์เรชันจะเป็นอย่างไร

         Baby Boomer (ผู้ที่เกิด พ.ศ.2489 - 2507) เป็นเจนเนอเรชัน ที่เกิดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สิ้นสุดลง  จึงเติบโตมาพร้อมกับการแข่งขัน มีลักษณะจริงจัง ใช้ชีวิตทุ่มเทกับการทำงานและการสร้างเนื้อสร้างตัว มีความประหยัด รอบคอบเป็นที่สุด ซึ่งถือเป็นต้นทุนการใช้ชีวิตที่ดี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันคนกลุ่มนี้ก้าวเข้าสู่วัยชราแล้ว ฉะนั้นการปรับตัวของคนเจนเนอเรชั่นนี้คือ การให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าที่ถูก และมีคุณภาพดีที่สุด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้จ่ายเงิน ในส่วนของการวางแผนการออมเงิน ควรเลือกรูปแบบการออมที่มีความเสี่ยงต่ำ เน้นความมั่นคง เช่น ฝากประจำ ซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อมีเงินใช้ในวัยเกษียณ

          Gen X (ผู้ที่เกิด พ.ศ.2508 - 2522)  กลุ่มคนวัยทำงานที่อยู่ในช่วงสร้างครอบครัว เติบโตมาในยุคที่ เศรษฐกิจกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วลง  จึงมีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบสร้างความสมดุล การใช้ชีวิตทั้งเรื่องงาน และครอบครัว รวมถึงมีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต  และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้การปรับตัวของคนเจนเนอเรชันนี้ เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ได้เป็นอย่างดี แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ควรเพิ่มการวางแผนการออมเพื่ออนาคต ด้วยการจัดสรรเงินออมให้สมดุลกับการใช้ชีวิตของตัวเอง แบ่งมาลงทุนสร้างผลตอบแทนที่งอกเงย อย่างเช่น หุ้น หรือ กองทุนรวมหุ้น เพราะแม้จะเป็นช่วงที่หาเงินได้มาก แต่ก็เต็มไปด้วยภาระต่างๆ ที่มากขึ้นตามวัยเช่นกัน 

          Gen Y (ผู้ที่เกิด พ.ศ.2523 - 2540)  เกิดมาในยุคที่เทคโนโลยีกำลังเฟื่องฟู จึงทำให้สามารถปรับตัวเข้ากลับเทคโนโลยีได้ง่าย ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ  มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักอิสระ ไม่ชอบการบังคับ กล้าได้กล้าเสีย ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่อยู่ในวัยเริ่มต้นทำงาน ในสถานการณ์เช่นนี้อาจจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการหารายได้เสริม อาทิ การขายของออนไลน์ เพราะนอกจากจะเป็นช่องทางหารายได้เพิ่มแล้ว ในอนาคตอาจจะพัฒนากลายเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้อย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับคนเจนเนอเรชั่นนี้ยังพอมีเวลาในการวางแผนการออมอยู่ จึงควรฝึกวินัยการออมเงินให้เป็นนิสัย และอาจจะเริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ให้มากเข้าไว้ เช่น หุ้น กองทุนรวมหุ้น เงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้นกู้ เพื่อต่อยอดเงินและสร้างความมั่นคงในอนาคต

            Gen Z (ผู้ที่เกิดหลัง พ.ศ. 2540 ) ก็คือ น้องๆ เด็กรุ่นใหม่ที่ยังเรียนหนังสืออยู่ พวกเขาเติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในยุคดิจิทัล ทำให้มีทัศนคติเปิดกว้าง ชอบเรียบรู้และรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้รวดเร็ว มีความเชี่ยวชาญในการหาข้อมูลต่างๆ ในโลกออนไลน์ อาจจะใช้ข้อดีตรงจุดนี้หารายได้พิเศษ ด้วยการขายของออนไลน์ เพื่อเป็นการหารายได้เสริมช่วยผู้ปกครอง หรือหากยังนึกไม่ออกว่าจะขายอะไร ในสถานการณ์เช่นนี้ อาจจะหาข้อมูลสำหรับการเรียน หรือสมัครเรียนออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้ลงทะเบียนเรียนฟรี สำหรับหลักสูตรที่สนใจ เพื่อใช้ต่อยอดการเรียนในอนาคตและป้องกันการรับเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการเดินทางไปเรียน หรือทำกิจกรรมนอกบ้าน และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกด้วย ดังนั้นเทคนิคการวางแผนการออมเงินง่ายๆ คือ การหยอดกระปุก จากนั้นนำเงินมาต่อยอดในการลงทุนด้วยการออมเงินกับกอช.  ฝากประจำกับธนาคาร หรือซื้อสลากออมทรัพย์ก็ได้ เพื่อเป็นการสร้างวินัยการออม ให้มีการออมอย่างสม่ำเสมอ

           จะเห็นได้ว่า ไลฟ์สไตล์ในแต่ละช่วงวัยมีความแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ทุกคนหลีกเลี่ยงสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ได้เลย สิ่งสำคัญที่จะเตรียมความพร้อมและช่วยให้คุณพ้นวิกฤตนี้ได้คือ “การออมเงิน” ฉะนั้น อย่ารอช้า ยิ่งเริ่มออมเร็ว ออมไว ยิ่งช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะนักเรียน-นักศึกษาที่ยังไม่ได้ทำงาน หรือผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้ไม่แน่นอน และไม่มีสวัสดิการเพื่อการเกษียณ แนะนำให้เริ่มออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ที่สามารถออมได้ตั้งแต่อายุ 15-60 ปี ออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี ได้รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐบาลสูงสุด 100% ตามช่วงอายุ แถมยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน เมื่ออายุครบ 60 ปี จะได้รับบำนาญอีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 02-049-9000