ปิดเทอมใหญ่ หัวใจ (ไม่) ว้าวุ่น (เรื่องเงิน)

         “ปิดเทอมมาถึงแล้ว” ช่วงเวลาที่น้องๆ หนูๆ รอคอยมาถึงแล้ว หลายคนกำลังมองหากิจกรรมยามว่างเพื่อพักผ่อนหลังจากหักโหมกับการเรียนมาตลอดเทอม แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถเปลี่ยนช่วงเวลาปิดเทอม ให้เป็น “เวลาทอง” พบกับบทความดีๆ จาก www.kapook.com ที่จะมาช่วยวางแผนการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แถมยังมีเงินออมเพิ่มขึ้นอีกด้วย

       ในช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ น้องๆ ที่กำลังมองหากิจกรรมเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เรามาลองใช้ “เวลาว่าง” ให้เป็น “เวลาออม” กันดีกว่า ยิ่งเราออมเงินได้เร็วเท่าไหร่ ก็มีระยะเวลาในการฝากเงินนานขึ้น ทำให้เงินออมเพิ่มพูนเรื่อยๆ ดังนั้นวัยรุ่น วัยเรียนที่ยังไม่มีภาระค่าใช้จ่ายมากนัก จึงควรเริ่มต้นออมเงินตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอม ถือเป็นโอกาสดีที่นักเรียน-นักศึกษาจะออมเงินได้มากขึ้น เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ดีกว่านำเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนไม่เหลือเก็บ จะได้ไม่ต้องว้าวุ่นใจกับเรื่องเงินๆ         ทองๆ ด้วย มาดูกันว่า ปิดเทอมนี้เราสามารถเพิ่มเงินออมในกระเป๋าได้อย่างไรบ้าง 

      1. เก็บออม 

       แม้จะเป็นช่วงปิดเทอม แต่ถ้าที่บ้านยังให้ค่าขนมอยู่ทุกวัน ก็ลองแบ่งเงินค่าขนมส่วนหนึ่งมาออมไว้บ้าง โดยอาจตั้งเป้าไว้เลยว่า ต้องออมให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง เช่น ได้เงินวันละ 100 บาท ต้องออมให้ได้อย่างน้อย 50 บาท หรือถ้าวันไหน เราไม่ได้ออกไปไหน แทบจะไม่ได้ใช้จ่ายกับอะไรมากมาย ก็สามารถนำเงินมาออมได้ทั้งหมด ฝึกตัวเองให้ออมเงินทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ เราก็จะมีเงินออมตั้งแต่อายุน้อยนี่แหละ 

      2. เก็บประสบการณ์ 

        ช่วงปิดเทอมมีงานพิเศษมากมายให้นักเรียน-นักศึกษาได้เลือกทำ ไม่ว่าจะเป็นงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ หรือถ้าใครมีความสามารถทางวิชาการ เล่นดนตรี ศิลปะ อาจรับติวหนังสือ หรือสอนดนตรี สอนศิลปะให้เด็กๆ ก็ได้ ซึ่งการทำงานพิเศษแบบนี้ ช่วยให้วัยรุ่นได้เรียนรู้วิธีการหาเงินด้วยตัวเอง ทำให้เห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น ปลูกฝังนิสัยให้เป็นคนที่รู้จักคิดก่อนใช้จ่าย

       3. เก็บโอกาส

        บริษัทหลายแห่งเปิดโอกาสให้นักเรียน-นักศึกษาได้ฝึกงาน เพื่อเตรียมพร้อมทำงานในอนาคต ดังนั้นหากใครมีเวลาว่างในช่วงปิดเทอมใหญ่ ก็สามารถมองหาสายงานที่เราสนใจแล้วไปฝึกงานดู เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานไว้ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ซึ่งบริษัทบางแห่งไม่ได้ให้นักเรียน-นักศึกษามาฝึกงานฟรีๆ แต่ยังมีค่าขนม ค่าเดินทางให้ด้วย 

       4. เก็บเล็กผสมน้อย

       ยุคนี้อะไรก็เปลี่ยนเป็นเงินเป็นทองได้หมด ดังนั้นลองหารายได้เสริมจากงานอดิเรกที่เราชอบ เช่น ใครมีฝีมือในการวาดรูป สามารถรับวาดรูปเหมือน วาดรูปการ์ตูน ขายทางออนไลน์ก็ได้ หรือใครมีความสามารถประดิดประดอยเครื่องประดับ ก็ลองประดิษฐ์สร้อยหรือกำไลสวยๆ แล้วนำไปขายดู ส่วนคนที่ถนัดทำอาหาร ทำขนม ลองทำขนมขายหน้าบ้าน ตลาดนัด หรือส่งให้ร้านขายของใกล้ๆ บ้าน ทุกอย่างที่กล่าวมาเป็นรายได้ในช่วงปิดเทอมที่ดีไม่เบาเลยล่ะ 

       อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญก็คือ เมื่อเรามีรายได้พิเศษเข้ามา ต้องเก็บออมไว้ จะเป็นเงินจำนวนน้อยหรือมากไม่สำคัญ แต่ควรออมอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถนำเงินไปฝากธนาคาร ซื้อสลากออมทรัพย์ ซื้อกองทุนรวมเพื่อเพิ่มผลตอบแทนก็ได้ หรืออีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจก็คือ นำเงินไปออมสะสมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อรับเงินสมทบจากรัฐบาลสูงสุด 100% ตามช่วงอายุ และยังได้ผลตอบแทนจากการนำเงินสะสมและเงินสมทบไปลงทุน เมื่ออายุครบ 60 ปี จะได้บำนาญไว้ใช้ตลอดชีพอีกด้วย สามารถออมได้ตั้งแต่อายุ 15-60 ปี ช่วยให้วัยรุ่นวัยเรียนเริ่มต้นออมได้ง่าย ๆ

     อย่าปล่อยให้ช่วงเวลาปิดเทอมใหญ่ หัวใจต้องว้าวุ่นกับการใช้เงินจนไม่เหลือเก็บ แค่ลองทำตามคำแนะนำที่บอกไป เราก็มีโอกาสเป็นวัยรุ่นสร้างตัวได้ทุกคน 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://money.kapook.com/view207194.html